พอดีจำได้ว่ามีคนให้วิเคราะห์หุ้นรายตัวให้ฟังบ้าง ผมจะทยอยวิเคราะห์แต่ละอุตสาหกรรมให้เป็นแนวทางแก่ผู้เริ่มต้นนะครับ จริงๆอยากจะสอน Valuation ด้วยแต่เหมือนจะเป็นการเชียร์ ชี้นำซึ่งไม่เป็นผลดีต่อผู้อ่านเลยครับ
ลองกลุ่มแรกก่อนนะครับ – หุ้นโรงแรม
ความน่าสนใจในกลุ่มโรงแรมโดยรวมของปีนี้
1.นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นทุกๆปี และมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปเรื่อยๆ แม้ว่าประเทศไทยจะมีปัญหามากมาย ล่าสุด 15.7 ล้านคน ปีนี้ Q1 5.36 ล้านคนแล้ว โดยกลุ่มที่เติบโตสุดคือ จีน รัสเซีย ที่เศรษฐกิจประเทศเหล่านี้ดีขึ้น คนมีกำลังทรัพย์มาเที่ยวมากขึ้น
2.ประเทศไทยมีจุดแข็งเรื่องการท่องเที่ยวในระดับโลก เนื่องจาก 1) สภาพอากาศที่อบอุ่น คนทางยุโรปโซนเมืองหนาวเลยชอบมา 2) ไทยมีภูมิประเทศที่สวยงามและมีชื่อเสียงในระดับโลก เช่น เกาะสมุย พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ โดยเฉพาะชายทะเล 3) ความเอื้อเฟื้อมีไมตรีของคนไทย คนไทยทำอาชีพนักบริการได้ดีมาก 4) ราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ
3.การท่องเที่ยวภายในประเทศสูงขึ้น คนไทยมีกำลังซื้อมากขึ้น ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว พฤติกรรมคนไทยชอบเที่ยว
▼
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ความน่ากลัวของตลาดหุ้น
ช่วงนี้ 2 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ.53-54) ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขึ้นมา 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ จาก 400 ต้นๆ จนปัจจุบันทะลุ new high ที่ 1100 แล้ว คนที่ลงทุนในช่วง 2 ปีนี้ส่วนใหญ่น่าจะได้กำไรงดงามกันถ้วนหน้า (แต่จริงๆก็คงมีคนที่ขาดทุนอยู่เพราะซื้อตามข่าวลือ หุ้นตกแล้วรีบขาย ซื้อหุ้นที่ราคาแพงๆ และอีกหลากหลายเหตุผลที่จะขาดทุน) คนที่ออกมาพูดส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ได้กำไรงดงาม แต่คนที่ขาดทุนอาจจะเ
งียบๆไม่พูด ทำให้คนที่อยู่นอกตลาดได้รับรู้ภาพเพียงด้านเดียวว่า...ตลาดหุ้นคือแหล่งทำเงินที่ง่ายดาย
ผู้เล่นหน้าใหม่ๆเริ่มเดินเข้าสู่ตลาดหุ้น หลายคนพกความหวังมาเต็มที่โดยหวังว่าตนเองจะมีอิสระภาพทางการเงินในเร็ววัน ยิ่งได้ยินเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ...ยิ่งมีกำลังใจ อยากจะให้พอร์ตการลงทุนตนเองโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์บ้าง
พอความคาดหวังที่สูง และเข้ามาลงทุนในช่วงที่ดัชนีทำ new high นักลงทุนหน้าใหม่ก็จะใช้วิธีหาหุ้นเด็ด โดยอาจจะไปลอกเซียนหุ้นชื่อดัง ค้นหาตามเวปบอร์ดว่าหุ้นไหนเด็ดคนพูดถึงเยอะ อ่านบทวิเคราะห์โดยดูแค่ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ โดยไม่ทราบเหตุผลในการลงทุนในหุ้นที่ซื้อลงไป...ไม่ทราบว่าถ้าหุ้นตกจะทำอย่างไร จะซื้อจะขายเมื่อไร จะถือนานแค่ไหน...รู้แค่ว่าขอได้ซื้อตามเซียน ได้ซื้อตามคนอื่นก็อุ่นใจแล้ว แค่นี้ก็ได้กำไรเป็นร้อยๆเปอร์เซ็นต์เหมือนเซียนแน่ๆ
แต่ตลาดหุ้นนั้นไม่ง่าย...เพราะถ้าง่ายจริง ทุกคนก็คงจะรวยจากตลาดหุ้นกันหมด แต่ในความจริงมีคนที่หมดตัวจากตลาดหุ้น มีคนที่เป็นหนี้สินมากมายจากการเล่นหุ้น
ผมจะลองขยายความตามจริง...เพื่อคุณให้รู้ตลาดหุ้นน่ากลัวยังงัย
งียบๆไม่พูด ทำให้คนที่อยู่นอกตลาดได้รับรู้ภาพเพียงด้านเดียวว่า...ตลาดหุ้นคือแหล่งทำเงินที่ง่ายดาย
ผู้เล่นหน้าใหม่ๆเริ่มเดินเข้าสู่ตลาดหุ้น หลายคนพกความหวังมาเต็มที่โดยหวังว่าตนเองจะมีอิสระภาพทางการเงินในเร็ววัน ยิ่งได้ยินเรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จ...ยิ่งมีกำลังใจ อยากจะให้พอร์ตการลงทุนตนเองโตหลายร้อยเปอร์เซ็นต์บ้าง
พอความคาดหวังที่สูง และเข้ามาลงทุนในช่วงที่ดัชนีทำ new high นักลงทุนหน้าใหม่ก็จะใช้วิธีหาหุ้นเด็ด โดยอาจจะไปลอกเซียนหุ้นชื่อดัง ค้นหาตามเวปบอร์ดว่าหุ้นไหนเด็ดคนพูดถึงเยอะ อ่านบทวิเคราะห์โดยดูแค่ราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ให้ โดยไม่ทราบเหตุผลในการลงทุนในหุ้นที่ซื้อลงไป...ไม่ทราบว่าถ้าหุ้นตกจะทำอย่างไร จะซื้อจะขายเมื่อไร จะถือนานแค่ไหน...รู้แค่ว่าขอได้ซื้อตามเซียน ได้ซื้อตามคนอื่นก็อุ่นใจแล้ว แค่นี้ก็ได้กำไรเป็นร้อยๆเปอร์เซ็นต์เหมือนเซียนแน่ๆ
แต่ตลาดหุ้นนั้นไม่ง่าย...เพราะถ้าง่ายจริง ทุกคนก็คงจะรวยจากตลาดหุ้นกันหมด แต่ในความจริงมีคนที่หมดตัวจากตลาดหุ้น มีคนที่เป็นหนี้สินมากมายจากการเล่นหุ้น
ผมจะลองขยายความตามจริง...เพื่อคุณให้รู้ตลาดหุ้นน่ากลัวยังงัย
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
กลยุทธ์ลดน้ำหนัก
(บทความนี้ไม่เกี่ยวกับการลงทุน เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองครับ)
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์ตั้งใจลดน้ำหนัก...อาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวปะปนกันไป
ผมเองเป็นคนนึงที่เคยพยายามลดน้ำหนักหลายครั้ง...เคยลดได้ทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนไปซัมเมอร์ที่แคนาดา ลดได้ 6-7 kgs ครั้งที่2 ตอนทำงานที่รพ.แวงน้อยตอนไปใช้ทุน ลดได้ 5-6 kgs แต่ก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมและอ้วนกว่าเดิมด้วย...
น้ำหนักตัวเท่าไรถึงเหมาะสม?
ก่อนอื่นเราต้องหาน้ำหนักที่เหมาะสมกับแต่ละคนก่อน...โดยดูจาก BMI (Body Mass Index) คือ ดัชนีมวลกาย ถ้าค่าBMI มากกว่า 25 ถือว่าน้ำหนักเกินแล้ว ถ้าค่า BMI 18.5-25 ถือว่าโอเค ถ้าค่า BMI น้อยกว่า 18.5 ถือว่าผอม น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
โดย BMI = น้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง
เขียนเป็นสูตร BMI = (Body weight-Kg)/(Height-m)²
เช่น ตอนนี้ผมน้ำหนัก 73 กิโลกรัม สูง 1.65 เมตร จะได้ดัชนีมวลกาย 26 ซึ่งถือว่าน้ำหนักเกิน
เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์ตั้งใจลดน้ำหนัก...อาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวปะปนกันไป
ผมเองเป็นคนนึงที่เคยพยายามลดน้ำหนักหลายครั้ง...เคยลดได้ทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกตอนไปซัมเมอร์ที่แคนาดา ลดได้ 6-7 kgs ครั้งที่2 ตอนทำงานที่รพ.แวงน้อยตอนไปใช้ทุน ลดได้ 5-6 kgs แต่ก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมและอ้วนกว่าเดิมด้วย...
น้ำหนักตัวเท่าไรถึงเหมาะสม?
ก่อนอื่นเราต้องหาน้ำหนักที่เหมาะสมกับแต่ละคนก่อน...โดยดูจาก BMI (Body Mass Index) คือ ดัชนีมวลกาย ถ้าค่าBMI มากกว่า 25 ถือว่าน้ำหนักเกินแล้ว ถ้าค่า BMI 18.5-25 ถือว่าโอเค ถ้าค่า BMI น้อยกว่า 18.5 ถือว่าผอม น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์
โดย BMI = น้ำหนักตัว (หน่วยเป็นกิโลกรัม) หารด้วย ส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง
เขียนเป็นสูตร BMI = (Body weight-Kg)/(Height-m)²
เช่น ตอนนี้ผมน้ำหนัก 73 กิโลกรัม สูง 1.65 เมตร จะได้ดัชนีมวลกาย 26 ซึ่งถือว่าน้ำหนักเกิน