มาว่าเรื่องหมากล้อมกันต่อนะครับ
ถึงแม้ว่าการเล่นโกะจะดูเรียบง่าย แต่ด้วยความน่าจะเป็นของรูปแบบหมากที่สูงมากของโกะ ทำให้มีอิสระในการวางกลยุทธ์มาก เราจึงพบเห็นนักเล่นโกะหลายรูปแบบ บ้างก็เน้นล้อมมุมให้รัดกุม บ้างก็เน้นขยายอิทธิพล บ้างก็เป็นสายโจมตี บ้างก็เป็นสายป้องกัน ปัจจุบันยังบอกไม่ได้ว่าแนวทางไหนดีที่สุด ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหลายที่นำมาใช้ล้วนแล้วแต่มุ่งไปสู่เป้าหมายของเกมส์คือ ...ชิงพื้นที่ให้ได้มากที่สุด (ไม่ใช่จับกินให้ได้มากที่สุด)
ในการลงทุนนั้นความจริงก็เรียบง่าย แค่ต้องซื้อถูกขายแพง คุณก็จะเป็นผู้ชนะในเกมส์นี้ แต่ด้วยความน่าจะเป็นมากมายของเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อธุรกิจและราคาหุ้นในอนาคต ทำให้เกมส์การลงทุน (ซึ่งผมถือว่าเป็นหมากกระดานอย่างหนึ่ง) นั้นไม่ง่ายเลย มีการคิดกลยุทธ์การลงทุนมากมายหลายสำนัก ไม่ว่าจะเป็น Quant (การใช้คณิตศาสตร์ในการลงทุน) นักลงทุนสายเทคนิคอล นักลงทุนแนวปัจจัยมหภาค นักลงทุนหุ้นคุณค่า ฯลฯ ซึ่งแต่ละแบบสามารถแบ่งย่อยออกไปได้อีกมากมาย
เวลาเราเล่นหมากกระดาน ถ้าเราเล่นไม่เป็นเราจะเฉยๆแพ้ก็ช่างชนะก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเราเล่นไปได้สักพักจนเข้าใจเกมส์ เราจะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับกับเกมส์ ตื่นเต้นเมื่อเสียเปรียบ ดีใจเมื่อได้เปรียบ เสียใจเมื่อแพ้ ดีใจเมื่อชนะ ยิ่งถ้าเป็นการเล่นแบบเดิมพันยิ่งทำให้เกมส์มีผลต่ออารมณ์เพิ่มขึ้นไปตามน้ำหนักของการเดิมพันนั้น
การลงทุนก็คือเกมส์การเงิน (ซึ่งผมถือว่าเป็นหมากกระดานอย่างหนึ่ง) ที่มีการเดิมพันสูงกว่าการแข่งชิงแชมป์ทุกหมากกระดาน เพราะมีเม็ดเงินที่ได้เสียจากการซื้อขายนับพันๆล้านบาทต่อวัน (ถ้าคิดรวมทั้งโลกยิ่งสูงกว่านี้หลายเท่า) ดังนั้นผลกระทบต่อจิตใจยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว บางคนอาจจะถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ต้องอาศัยการฝึกฝนจิตใจร่วมไปกับการฝึกกลยุทธ์การเดินหมาก ในการเล่นโกะระดับสูงหรือการแข่งชิงแชมป์ การอ่านทางหมากอาจจะไม่สำคัญเท่าการควบคุมจิตใจ เพราะนักเล่นโกะชั้นเซียนนั้นต่างรู้อยู่แล้วว่าในแต่ละสถาณการณ์ควรดินหมากอย่างไร แต่จะทำได้หรือไม่อยู่กับสภาพจิตใจ
และเมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งเราจะเลิกยึดติดแพ้ชนะ จะมีแต่ดำกับขาว ชนะหรือแพ้ก็ต้องเรียนรู้ ไม่มีการยึดติดว่าชั้นชนะ เธอแพ้ มีแต่ขาวกับดำ และดูกระบวนการเดินหมากเป็นหลัก
นั่นคือชนะได้โดยไม่คิดเอาชนะ...หมั่นสร้างเหตุที่ดีผลที่ดีจะตามมาเอง
การลงทุนก็เช่นกัน...เมื่อเราฝีมือการลงทุนเก่งขึ้น ไม่ว่าเราได้กำไรหรือขาดทุนเราจะเรียนรู้จากมัน มากกว่าที่มาคร่ำครวญเมื่อขาดทุนหรือคุยโม้โอ้อวดว่าได้กำไร มีแต่กระบวนการคิด การตัดสินใจและพอร์ตการลงทุน ไม่มีตัวกูของกูอยู่ในนั้น และฝึกฝนฝีมือให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ จิตใจเปิดกว้างให้กับการศึกษา
ถึงไม่คาดหวังผลตอบแทนที่เป็นเลิศ...แต่ถ้าหมั่นสร้างเหตุที่ดี บริหารความเสี่ยงและผลตอบแทนอย่างฉลาด ผลตอบแทนที่ดีจะตามมาเอง
สำหรับผม...การลงทุนนั้นจะยากกว่าหมากกระดาน เพราะการลงทุนมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มากกว่าบนกระดาน
เรามาว่ากันต่อเรื่องกลยุทธ์หมากล้อมที่สำคัญๆที่นำไปใช้ได้กับการลงทุนกันครับ
กลยุทธ์ทั่วไปในการเล่นหมากล้อม
1. ยึดจุดใหญ่ / ล้อมมุม ล้อมด้านข้าง แล้วล้อมกลางกระดาน
- การชิงพื้นที่ด้วยทรัพยากรที่จำกัดควรจะใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด (ล้อมมุมใช้แค่ 2 ด้านแต่ล้ามกลางกระดานใช้ถึง 4 ด้าน)
- การที่เงินในพอร์ตเราจำกัด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด ลงทุนให้ชนะตลาด เราควรจะลงทุนในหุ้นน้อยตัว (เช่น 3-5 ตัว) แต่ละตัวต้องมี upside สูง downside ต่ำ ซึ่งคิดเป็น expected profit แล้วสูงที่สุด ธุรกิจแข็งแกร่งมีความสามารถในการแข่งขันระยะยาว Durable competitive advantage รวมถึงการเน้นการลงทุนไปอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
2. อ่านหมากล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ตา
- การอ่านทางหมากล่วงหน้า ว่าดำเดินแบบนี้ ขาวจะเดินมาแบบไหน การฝึกอ่านหมากจะช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเยือกเย็น เดินหมากอย่างมั่นใจ
- การซื้อหรือขายหุ้นโดยศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานอย่างละเอียด รวมถึงเข้าใจจุดอ่อนจุดแข็งของบริษัทตามความเป็นจริง เข้าใจโอกาสและความเสี่ยงที่เข้ามากระทบบริษัท จะทำให้เราลงทุนได้อย่างมั่นใจ มีความเยือกเย็น สุขุม ถ้าเหตุการณ์ที่เราคาดล่วงหน้าเกิดขึ้นไม่ว่าดีหรือร้ายเราก็รับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. วางโครงสร้างหมากที่ดี
- กลุ่มหมากที่มีโครงสร้างที่ดี จะขยายพื้นที่ได้ง่าย สร้าง 2 ห้องจริงเอาตัวรอดได้
- การลงทุนในบริษัทที่มีโครงสร้างทางธุรกิจที่ดี งบดุลแข็งแกร่ง หนี้ที่มีดอกเบี้ยไม่สูงเกินไป ผลตอบแทนต่อทุน (ROE)สูง ใช้เงินลงทุนไม่สูง ยังมีความต้องการสินค้าและบริการที่สูงและมีแนวโน้มจะสูงขึ้นต่อไป จะทำให้ธุรกิจนั้นเติบโตได้ง่าย เอาตัวรอดได้แม้ว่าจะเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
4.ลดทอนพื้นที่คู่ต่อสู้ / โจมตีโดยไร้จิตสังหาร
- เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกระดาน ถ้าเราแข็งแกร่งมากพอ เราจะเข้าไปลดพื้นที่คู่ต่อสู้ ด้วยการโจมตีหมากคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอ จุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อจะจับกิน แต่เพื่อชิงพื้นที่จากคู่ต่อสู้ที่ต้องใช้ทรัพยากรไปในการทำให้หมากมีชีวิตรอด
- ในการลงทุนจะมีช่วงเวลาที่ตลาดผิดปกติบางครั้ง เช่น นักลงทุนมองโลกในแง่ดีมาก ราคาหุ้นแพงเกินเหตุ เราจะถือหุ้นรอจังหวะขายหุ้นออกมา บางเวลาตลาดมองโลกแง่ร้ายมากๆ มีการขายอย่างตื่นตระหนก เราจะถือเงินสดรอจังหวะเก็บหุ้นดีๆเข้าพอร์ต
5. จำกัดความเสียหาย ไม่ดันทุรัง
- บางครั้งเมื่อเกิดการต่อสู้แล้วเห็นว่าหมากกลุ่มนี้ไม่รอด การยอมทิ้งหมากกลุ่มเดียวเพื่อชัยชนะในเกมส์การแข่งขันนับว่าสมเหตุผล เช่น กรณีหมากขั้นบันได, หมากที่ถูกอาตาริที่เส้นที่ 2 หรือเส้นที่ 1, หมากที่ไม่มี 2 ห้องจริง
- การที่หุ้นบางตัวในพอร์ตเกิดปัจจัยร้ายแรงเข้ามากระทบพื้นฐานระยะยาวหรือเราอาจจะประเมินความเสี่ยงผิดจนราคาหุ้นลดลง สิ่งที่เราควรทำคือ ยอมรับความผิดพลาด หาจังหวะขายหุ้นทิ้ง และไม่ซื้อถัวเฉลี่ย เพราะถ้าไม่ยอมรับความจริง จะเกิดการถัวเฉลี่ยจนเงินหมดและราคาหุ้นดิ่งต่อจนหมดตัวได้ครับ เรียกว่าปกป้องหมากกลุ่มเดียวจนต้องแพ้กลางกระดาน
คงต้องยอม “แพ้ศึกแต่ชนะสงคราม” ครับ
ผมคิดว่าโกะเป็นหมากที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาอย่างแท้จริง
และนี่เป็นเพียงตัวอย่างของกลยุทธ์การเล่นโกะที่ผมคิดว่านำมาใช้กับการลงทุนได้มากกว่าการเล่นหมากรุก คอมพิวเตอร์ที่ไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึกเล่นได้เก่งกว่ามนุษย์ แต่หมากล้อมคอมพิวเตอร์ยังไม่อาจชนะคนได้ เพราะแนวทางการเดินหมากของแต่ละคนคือความคิดสร้างสรรค์ คือจิตวิญญาณของคนๆนั้น การลงทุนที่ต้องมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ก็เช่นกันครับ...คอมพิวเตอร์ก็ยังมาแทนที่คนไม่ได้
เพราะการต่อสู้ต้องไร้หัวใจ แต่การสร้างสรรค์ต้องมีหัวใจครับ
ปล. ใครจะเล่นโกะกับผมก็เชิญได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น