ความหมายของคำว่า “กลยุทธ์” ในพจนานุกรมราชบัณฑิยสถาน คือ การรบที่มีเล่ห์เหลี่ยม, วิธีการที่ต้องใช้กลอุบายต่างๆ, เล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้ (หรือจะใช้คำว่า “ยุทธศาสตร์” แทนคำว่ากลยุทธ์ก็ได้ครับความหมายเดียวกัน) ฟังความหมายตามพจนานุกรมอาจจะยังงงๆกัน ...ดังนั้นผมจะพูดตามที่ผมเข้าใจดีกว่า
และยังมีอีกคำนึงที่มักจะสับสนกัน คือ “ยุทธวิธี” (Tactics) หมายถึง วิธีการในระดับรายละเอียด เพื่อนำมาใช้ดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ (กลยุทธ์จะบอกวิธีการไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ในภาพรวม)
ซึ่งทั้ง Strategy และ Tactics เป็นคำที่มักจะใช้คู่กัน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่เราวางเอาไว้
ผมไม่ใช่นักบริหารระดับสูงแต่อย่างใด แต่ผมคุ้นเคยกับคำว่า “กลยุทธ์” และการใช้กลยุทธ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากตอนเด็กๆผมชอบอ่านสามก๊กและตำราพิชัยสงครามของซุนวู รวมถึงชอบเล่นหมากกระดานที่ต้องใช้การคิดและวางแผน โดยความหมายของกลยุทธ์สำหรับผมคือ...การใช้วิธีการต่างๆเพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราวางเอาไว้ นั่นคือ เราต้องรู้ก่อนว่าเป้าหมายของเราคืออะไร? และเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไร?
แล้วกลยุทธ์มีความสำคัญอย่างไรกับการลงทุน?
นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นมีเป้าหมายเพื่อต้องการกำไร ต้องการเป็นอิสระภาพทางการเงิน โดยมากนักลงทุนที่เข้ามาใหม่ๆมักจะคิดว่า การมีหุ้นเด็ดคือคำตอบของทุกอย่าง เหมือนแทงหวยก็ต้องมีเลขเด็ด แต่ความจริงแล้วนักลงทุนระดับเซียนนั้น การซื้อหุ้นถูกตัวเพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ในการลงทุนด้วย
พูดไปอาจจะยังไม่เชื่อ...งั้นหาลองดูว่า มีนักลงทุนรายย่อยมากมายแค่ไหนที่ซื้อตามเซียนแล้วขาดทุน ซื้อต้นทุนเท่าเซียนแล้วยังกำไรน้อยกว่าหรือขาดทุน เพราะการที่นักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ขาดกลยุทธ์ในการลงทุน
ผมถึงได้พยายามที่จะถ่ายทอดเรื่องของกลยุทธ์ออกมา การเรียนรู้เรื่องกลยุทธ์ผมคงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงหมากกระดาน...และหมากกระดานที่ผมคิดว่าใช้ในการฝึกการคิดเชิงกลยุทธ์ได้อย่างดีเยี่ยมคือ หมากรุก และหมากล้อม(โกะ)
หมากรุก (Chess)
หมากรุกสากล หมากรุกไทย หมากรุกจีน จะจัดอยู่ในกลุ่มนี้ โดยเล่นบนกระดานเป็นช่องขนาด 8x8 ผู้เล่นฝ่ายขาวและดำปะทะกัน มีตัวเล่น 16 ตัวที่มีความสามารถต่างกันไป (เช่น ม้า เรือ) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจับกินตัวขุน (King) ของฝ่ายตรงข้าม มีการได้เสียที่ชัดเจน (Zero Sum game) บรรลุเป้าหมายโดยการเข้าต่อสู้จับกินกัน
แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะดูหลากหลาย แต่ด้วยกระดานที่ขนาดจำกัดและตัวเล่นมากมายที่มีความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้รูปแบบของหมากมีจำกัด ซึ่งปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์สามารถชนะมนุษย์ได้แล้ว โดยในปี 1997 Deep Blue ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ของ IBM ที่สร้างมาเล่นหมากรุกโดยเฉพาะสามารถชนะเซียนอย่าง แกรี่ คาสปารอฟ (Garry Kasparov) ผู้เป็นแชมป์โลกหมากรุกชาวรัสเซีย 15 ปีซ้อน ซึ่งชัยชนะได้มาจากการประมวลผลของเจ้าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง
ไม่แปลกเลยที่คอมพิวเตอร์จะชนะมนุษย์ในเกมส์นี้ เพราะมนุษย์บางครั้งก็เหนื่อย อ่อนล้า อารมณ์ต่างๆ เช่น ความกลัว ความโลภ ต่างก็มีผลลบต่อการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลของมนุษย์ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีหัวใจย่อมชนะในเกมส์ที่มีรูปแบบที่จำกัดนี้ แต่อย่างไรก็ตามคอมพิวเตอร์ก็ไม่มีความสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้เหมือนสมองมนุษย์
Deep-blue VS Kasparov
โดยระหว่างเกมส์ การวางกลยุทธ์ที่มักใช้กันคือการล่อด้วยผลประโยชน์ หรือการขู่ที่จะจับกิน โดยผู้เล่นระดับสูงจะมีการอ่านเกมส์ในระดับที่ไกลมากๆ ผู้เล่นที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่ตนเองคิดว่าตัดสินใจดีแล้วนั้น ที่แท้เป็นการเดินเกมส์ตามฝ่ายตรงข้ามหรือไม่? นั่นคือเป็นแค่เพียงการเลือกวิธีแพ้ให้กับตนเองเท่านั้น
ในกระดานหุ้น การสู้รบกับเจ้ามือในการลากและทุบราคา การปั่นหุ้นคือเกมส์ที่ต้องใช้การต่อสู้จับกินเหมือนหมากรุก มีคนได้ต้องมีคนเสีย (Zero sum game) การล่อด้วยผลประโยชน์ เช่น การลากหุ้นแรงๆแบบมีวอลุ่ม แมงเม่าที่อดใจไม่อยู่ก็จะวิ่งเข้ามาติดเบ็ดที่เจ้ามือวางเอาไว้ โดยโดน checkmate ไป การทุบหุ้นแรงๆจนแมงเม่าต้องคายของออกมาคือการขู่จับกิน ทั้งหมดเป็นการเต้นอันเร่าร้อนตามเกมส์ของเจ้ามือ(ผู้มีฝีมือการเทรดสูงกว่า)วางเอาไว้
การฝึกการเล่นหมากรุกจะทำให้เรารู้ทันเกมส์ อ่านหมากล่วงหน้าได้ เรารู้ทันว่ากำลังเลือกบนเกมส์ที่เจ้ามือวางไว้หรือไม่? หรือถ้าฝีมือเราเหนือกว่านั้นคือล่อด้วยผลประโยชน์และบีบด้วยการขู่จับกินซะเอง (ฝีมือการเทรดสูงขึ้นมาก)
หมากล้อม
ผมไม่ชอบการเล่นหมากรุก เนื่องด้วยว่า เป็นหมากที่ว่าด้วยการทำลายล้าง การชิงไหวชิงพริบ และต้องใช้การจำรูปแบบหมากจำนวนมาก และในช่วงที่ผมเรียนปี 5 ผมก็ได้พบกับหมากล้อมซึ่งถือว่าเป็นหมากกระดานที่ผมชอบมากที่สุดในปัจจุบัน มีอยู่ช่วงนึงถึงกับเล่นแบบลืมวันลืมคืนไปเลย
หมากล้อมในภาษาญี่ปุ่นคือ “โกะ” ภาษาจีนเรียก “เหวยฉี” ภาษาเกาหลีคือ “บาดุก” เป็นเกมส์ที่เกิดในประเทศจีนมีอายุยาวนานกว่า 4,000 ปี
หมากล้อมเป็นเกมส์ที่ว่าด้วยกลยุทธ์อย่างแท้จริง โดยเล่นบนกระดานจุดตัดขนาด 19x19 จุด มีหมากสีขาวและสีดำ วัตถุประสงค์เพื่อล้อมพื้นที่ ใครมีพื้นที่มากกว่าในตอนท้ายเกมส์จะชนะไป โดยผลัดกันวางทีละหมาก (หมากดำเดินก่อน) การจับกินทำได้โดยยึดลมหายใจของฝ่ายตรงข้าม และถ้ากลุ่มหมากมี 2 ห้องจริงจะไม่มีวันตาย
ปัจจุบันยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใดเล่นหมากล้อมที่ขนะคนได้ เพราะความน่าจะเป็นของรูปแบบหมากมีได้สูงถึง 361! (361 แฟก) ประมาณ 10 ยกกำลัง 768 ไปลองคิดเองว่ามหาศาลขนาดไหน กระดานที่เดินมาหลายพันปียังไม่มีกระดานไหนซ้ำกันเลย
หมากล้อมจะพูดถึงการจัดสรรค์ทรัพยากรและการต่อรองเป็นสำคัญ
และมีคำที่นักเล่นโกะชอบใช้ที่ผมอยากบอกนักลงทุนคือ...
“ชนะได้โดยไม่คิดเอาชนะครับ”
(โปรดติดตามต่อตอนที่ 2)
ปล. ผมขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะครับ เดี๋ยวจะยาวเกินไป ตอนหน้าจะเจาะลึกเรื่อง การนำกลยุทธ์ในหมากล้อมไปใช้กับการลงทุนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น