วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

Mind investing blog

ตอนแรกที่เขียน blog ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อ blog ว่าอะไรดี? ด้วยความที่อยากจะให้เป็น blog ที่เกี่ยวกับการลงทุน ก็เลยไม่อยากจะเอาชื่อตัวเองเป็นชื่อ blog ...สุดท้ายจึงเลือกชื่อ “Mind investing blog” เนื่องจากผมมีความเชื่อว่า...ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เริ่มต้นจากจิตใจ ตลาดหุ้นคือภาพสะท้อนของจิตใจของคนในตลาดหุ้นและในเศรษฐกิจ รวมถึงยังมีความหมายในการลงทุนในตัวเองอีกด้วย (ในเชิงความคิด จิตใจ)

เหตุผลที่ผมมาเขียน blog  เพราะมีรุ่นน้องมือเซียนได้แนะนำว่าผมควรเก็บงานเขียนไว้ใน blog ผมก็เลยลองเขียนดู เพื่อเป็นการแบ่งปันกับคนอื่นๆทีสนใจเรื่องการลงทุนด้วย โดยเนื้อหาใน blog ผมจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้...

1.การลงทุนหุ้นเติบโต (Value growth investing)
2.จิตวิทยาการลงทุน (Behavioral finance, Psychology)
3.การพัฒนาตนเอง (Self development)
4.เรื่องอื่นๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภค, การตลาด, เทคโนโลยี, ฟิสิกส์, เศรษฐศาสตร์มหภาค, ดนตรี ...ฯลฯ แล้วแต่ว่าผมอยากจะเขียนอะไร 555+

ขอขอบคุณบุคคลเหล่านี้...
- พ่อ แม่ ผู้มีพระคุณสูงสุด ผู้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เน้นคุณค่าที่แท้จริง และเป็นครูด้านธุรกิจคนแรกของผม
- ผู้ใหญ่ที่ผมเคารพที่เคยเล่าให้ฟัง ผู้ซึ่งเป็นคนเปลี่ยนทัศนคติจากเดิมที่เคยมองว่าตลาดหุ้นน่ากลัว ทำให้ผมกล้าลงทุนในปี 2009 และได้ค้นพบสิ่งที่ผมรัก
- วอร์เรน บัฟเฟต อาจารย์ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแบบอย่างในการลงทุน และการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง
- ปีเตอร์ ลินส์ อาจารย์ผู้เป็นแนวทางการลงทุนในหุ้นโตเร็วที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน
-  หนังสือของ ดร. นิเวศ และคุณ สุมาอี้ แม้ว่าผมจะไม่รู้จักพวกท่านเป็นการส่วนตัว แต่หนังสือของพวกท่านก็ช่วยเปิดมุมมองเรื่องการลงทุนให้กับผมได้อย่างมากมาย

- น้องโบว์ ที่เสียสละเวลาช่วยรับฟังและให้คำแนะนำในเรื่องหลักการลงทุนและให้ความเห็นวิจารณ์การวิเคราะห์หุ้นรายตัวของผม

หากไม่มีบุคคลเหล่านี้คงจะไม่มีผมในวันนี้ ผมก็คงจะเป็นแค่แมงเม่าตัวนึงที่อาจจะได้กำไรมาแบบฟลุ๊คๆและหมดตัวในเวลาต่อมา แล้วสาปแช่งตลาดหุ้นเหมือนหลายๆคน ขอบคุณจากใจครับ -/\-

แม้ว่าผมเองจะไม่มีอาจารย์ ไม่มีเซียนที่เป็นตัวเป็นตนเหมือนคนอื่นที่คอยสอนเรื่องหุ้นตั้งแต่เริ่มต้นและคอยบอกใบ้หุ้นให้ แม้ว่าผมจะเคยน้อยใจว่าผมโชคไม่ดีเท่าคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ผมไม่คิดอย่างนั้นแล้ว

...เพราะผมไม่มีอาจารย์ ผมจึงขวนขวายพัฒนาตนเอง
...เพราะผมไม่มีอาจารย์ ผมจึงเรียนรู้ที่จะเป็นที่พึ่งให้กับตนเองและผู้อื่นมากกว่าจะรอคอยการช่วยเหลือ
...เพราะผมไม่มีอาจารย์ ผมจึงไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งรอบข้างและฟังเสียงจากใจตนเองมากกว่าจะฟังตลาดหรือฟังเซียน
...เพราะผมไม่มีอาจารย์ ผมจึงอยากจะเป็นอาจารย์เรื่องการลงทุนให้กับคนอื่นๆ โดยสอนแบบไม่คิดสตางค์แม้แต่บาทเดียวจากนี้และตลอดไป เพื่อให้คนอื่นๆได้มีโอกาสที่แบบผมไม่เคยมี

(สำหรับคนที่มีอาจารย์เป็นตัวเป็นตน มีคนคอยแนะนำ มีคนคอยบอกหุ้น ผมขอแสดงความดีใจด้วยครับ^^)

ขอบคุณทุกๆคนที่อ่าน blog และฟังผมการสอนเรื่องการลงทุน ทำให้ผมมีกำลังใจที่เขียน blog และสอนเรื่องหุ้นและการลงทุนต่อไปเรื่อยๆ Feedback ที่ได้รับไม่ว่าจะทางบวกหรือทางลบ ผมจะนำไปปรับปรุงและพัฒนาตนเองต่อไป

Keep Moving --- ลุย!!!  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น